เป็นประเด็นดราม่าเล็กๆ เมื่อนางเอกคนดังอย่าง “ปู ไปรยา สวนดอกไม้” ตัดสินใจยุติการทำงานร่วมกับธุรกิจอาหารเสริม “ไปรยา บาย แอลบี สลิม (Praya by LB Slim)” เครือบริษัท “ต้นหอม ศกุนตลา-ดีเจ มะตูม เตชินท์” เจ้าตัวเปิดใจถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญนี้ หลังจากร่วมงานกับบริษัทดังกล่าวมา 1 ปี ว่า ครั้งนั้นตนมองว่าการร่วมทำธุรกิจกับอาหารเสริม เป็นวิธีที่ทำเงินได้ง่าย เรียกได้ว่าตอนนั้นเป็นเทรนด์ ที่มักจะดึงดารามาเป็นส่วนร่วม แต่ตนไม่ได้เป็นหุ้นส่วนตั้งแต่แรก เพียงแต่เป็นการใช้ชื่อเสียงของตนดึงดูดยอดขายเท่านั้น ซึ่งตนได้เห็นข่าวหลายครั้งที่ออกมาแล้ว “ปู ไปรยา” เปิดใจว่า เจ้าตัวไม่ได้เป็นหุ้นส่วนกับธุรกิจดังกล่าวตั้งแต่ต้น เพียงแต่สินค้าเลือกใช้ชื่อเสียงของตน การออกมาประกาศยุติการทำงานร่วมกับแบรนด์อาหารเสริมครั้งนี้ ตนรู้สึกสงสารตัวแทนจำหน่าย แต่ไม่ได้มีโอกาสออกมาพูด ทนายความของตนจะเป็นฝ่ายออกมาให้รายละเอียด เป็นไปตามขบวนการทางกฎหมาย
สำหรับตนๆ คิดว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องเล็กมาก สิ่งที่ห่วงที่สุดคือ ตัวแทนจำหน่าย ตนยืนยันจะปล่อยให้ทนายเป็นคนชี้แจง “ปู ไปรยา” ย้ำ หลายๆ ครั้งที่มีเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจอาหารเสริม ตนออกมาพูด ทั้งๆ ที่ต้องการให้เจ้าของธุรกิจออกมาพูด ในใจตนไม่ชอบพูดอะไรไม่ดีออกสื่อ ขออโหสิกรรมและปล่อยไป เพราะคิดว่าอะไรที่ได้มาง่าย ได้มาเร็ว ไม่ได้เป็นเรื่องที่ดี ส่วนสถานะของ “ปู ไปรยา” กับเจ้าของธุรกิจนั้น เจ้าตัวย้ำชัด จริงๆ ตนไม่ได้เป็นเพื่อนกันตั้งแต่ต้น เป็นเรื่องของธุรกิจ ไม่มีความรู้สึกส่วนตัว และขออโหสิกรรม ทุกสัญญาที่ตนทำ ต้องมีทนายความมาเกี่ยวข้อง แต่ตนไม่สามารถพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้แล้ว เพราะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกันแล้ว ถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเก่า เห็นข่าวมาหลายเดือน และเห็นว่าทางบริษัทมีเรื่องโดนโจมตีค่อนข้างเยอะ ดังนั้น ตนจึงขออนุญาตไม่ใช่ชื่อเสียงตน และพื้นที่ของตนมาเป็นส่วนร่วมในการทำร้ายบริษัท ตนไม่อยากให้มีอะไรมาเป็นตราบาปในใจ
“ปู ไปรยา” ระบุ ธุรกิจไม่ได้เป็นเรื่องผิดใจ ตนเข้ามาตอนแรกด้วยเจตนาเพื่อทำธุรกิจร่วมกัน เพื่อผลประโยชน์ของทุกฝ่าย เมื่อใดที่ผลประโยชน์หมดไป การเดินจากกันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ตนกล้าพูดว่าตลอดเวลาที่อยู่ในวงการมา 15 ปี “it’s not drama” นี่ไม่ใช่ดราม่า เป็นธรรมดาของธุรกิจ
เมื่อถูกถามถึงบทเรียนจากการทำธุรกิจครั้งนี้ “ปู ไปรยา” ชี้แจงว่า เนื่องจากธุรกิจนี้ ไม่ใช่ธุรกิจของตน จึงถือว่าเรื่องนี้ ไม่ใช่เป็นการให้บทเรียน แต่เป็นการให้ข้อคิดตนมากกว่า สุดท้าย “ปู ไปรยา” ยืนยัน ตนไม่ชอบให้ใครมาใช้พื้นที่สื่อของตนไปว่ากล่าวใคร โดยตนเชื่อว่าทุกคนมีเหตุและผล เลยไม่อยากขอออกความคิดเห็น และตนไม่ได้มีปัญหาใดๆ กับเจ้าของแบรนด์ ทุกวันนี้แค่อยู่ในวงการ ทำงานทุกวัน ก็เจอปัญหาที่ต้องแก้ไขมากมาย เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องเล็กมาก หลังจากนี้เป็นเรื่องของขบวนการกฎหมาย ซึ่งใช้ระยะเวลานาน ตนไม่ใช่กระต่ายตื่นตูม ถ้ามีเรื่องที่ตกใจจริงจึงจะพูด แต่บางเรื่องขอไว้ให้เป็นเรื่องของนักกฎหมาย ตนในฐานะดารา อยู่ในที่สาธารณชน เห็นข่าวที่บริษัทเจอเยอะแล้ว ตนจะไม่เป็นฝ่ายขอพูดดีกว่า
BUNTERNGSOCIETY
EMAIL : info@bunterngsociety.com
© Copyright 2019 bunterngsociety - All rights reserved.